เปิด 4 แนวทางจัดการศึกษาเสริมทักษะสมัยใหม่ สร้างสังคมเป็นธรรมยุคโควิด19


Cr.https://worldliteracyfoundation.org/
Cr. https://worldliteracyfoundation.org/


11 สิงหาคม 2563- ProgressTH - ธัญณิชา  (กาติ๊บ)  เหลิมทอง

โควิด19 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในชีวิตที่เราสามารถรู้สึกและมีประสบการณ์ด้วยตัวเองกัน  โดยเฉพาะมาตรการ Social Distancing  ซึ่งกลายเป็นวิถีใหม่  (New  Normal) ไปแล้ว  ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเชิงปัจเจกและสังคมที่เราจะต้องพยายามปรับตัวกันให้ได้ ซึ่งสังคมไทยก็ถือว่าทำได้ดีและหวังว่าจะดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะโควิด19 น่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน

อย่างไรก็ตามมีหนี่งเรื่องที่เราไม่สามารถมองข้ามได้และต้องมีการ “ปรับตัว” อย่างเข้มข้น นั่นก็คือ เรื่องการศึกษา  ที่เราไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบเดิมได้ เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้วการศึกษาต้องเปลี่ยนตามให้ทันโลกด้วย 


ทั้งนี้  World Economic Forum ได้เสนอบทความที่น่าสนใจเรื่อง  “4 Things young people want from Education in the Future” ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางให้ประเทศไทยพิจารณาในเรื่องนี้ได้ว่า ในอนาคตเราจะมีทิศทางในการเปลี่ยนแนวทางการให้การศึกษากับคนรุ่นใหม่ยุคนี้อย่างไร เพื่อให้เขาได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้มากที่สุด   เพราะวิกฤตโควิด 19  ที่เกิดขึ้นทำให้เด็กและเยาวชนทั่วโลกต้องออกจากโรงเรียน และ นักศึกษาจบใหม่หลายล้านคนไม่สามารถหางานทำได้  

ดังนั้น ช่วงเวลานี้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการปฏิรูปแนวทางการให้การศึกษาและเพิ่มทักษะที่สำคัญให้เด็กๆ ในการรับมือกับโลกที่หมุนเร็วและต้องเจอกับภาวะโรคระบาดแบบนี้ได้    โดย

1.ต้องเป็นทักษะสมัยใหม่  ไม่ใช่หลักสูตรเก่าอีกเดิมอีกต่อไปแล้ว  ( Modern skills, not old fashioned curricula)   เรื่องเป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ควรตระหนักว่า การสอนเรื่อง เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทักษะสมัยใหม่ เป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อให้เด็กๆนำไปใข้ได้ในขีวิตจริง  ซึ่งในส่วนนี้ภาคธุรกิจอาจจะเข้ามาทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย เพื่อการผลิตคนออกสู่ตลาดได้อย่างมีคุณภาพได้ 

2.Soft Skills คือหัวใจสำคัญ  (Soft Skills are keys)  กล่าวคือ ทักษะด้านอารมณ์ ความรู้สึก การเข้าสังคม รวมทั้งการสื่อสาร  เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเด็กๆน้องนักศึกษาการทักษะเหล่า ที่สำคัญคือ ทักษะ Advocacy/ Campaign  หรือการผลักดันนโนยายสู่สาธารณะและผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งไม่มีที่ไหนสอนมาก่อน  แต่ในชีวิตจริงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  เพื่อที่พวกเขาจะได้เสนอ  ผลักดัน  และเป็น Change Agent ให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

  ดังนั้น  ต้องมีการให้การศึกษาเรื่องการสร้างพลเมือง (Civic Education) คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้เรื่องเป็นการเป็นพลเมือง  รู้เท่าทันการเมืองและการเข้าถึงกระบวนการออกนโบบายสาธารณะ การเขียนคำร้องเรียน การเขียนคำรณรงค์ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งในทางการเมือง และธุรกิจ เพราะจะทำให้เกิด Design Thinking รวมถึง Critical Thinking ได้มากขึ้น 

3.การเรียนออนไลน์คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  (Digital Connectivity and digital Learning)   ต้องมีการใช้ออนไลน์ทั้งการเรียนและการทำงาน  เพราะฉะนั้นการเรียนการสอนในอนาคต้องมีการนำออนไลน์มาใช้มากขึ้น  ซึ่งถ้าเราสามารถทำให้ทุกหนทุกแห่งเข้าถึงออนไลน์ได้ ก็เชื่อได้ว่าสังคมของเราจะเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำน้อยลงและมีความเป็นธรรมมากขึ้น

4.การศึกษาต้องเอื้อและเข้าถึงกลุ่มคนที่เปราะบาง/ด้อยโอกาส   (Reach vulnerable communities)  การสึกษาไม่ควรแค่จำกัดอยู่ที่ห้องเรียนเท่านั้น  แต่ควรกระจายไปพื้นที่ห่างไกลด้วย  ที่ไม่มีทรัพยากรด้วย ซึ่งภาครัฐ และ เอกชนต้องไม่ลืมกลุ่มคนเหล่านี้    อย่างเช่นเรื่องฝึกงาน  นักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลก็ควรได้รับโอกาสนี้ด้วย  ซึ่งในอนาคต   เด็กเยาวชน คนรุ่นใหม่ทุกคน ควรที่จะมีความฝันและทักษะต่างๆ โดยที่ไม่รู้สึกว่ามีขีดจำกัดเรื่องสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่   (That there is no skill that is unreachable because of who you are or where you are.)


ทั้งหมดนี้เป็น 4 แนวทางหลักเบื้องต้น  ในการจัดการศึกษาเพื่ออนาคค ซึ่งสามารถเริ่มทำได้จากวันนี้ได้เลย 

####