แต่ความจริงแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและมักจะถูกมองข้ามไป นั่นคือ การทำก๊าชชีวภาพ หรือ ไบโอแก๊ส ที่นอกจากจะได้แก๊สมาใช้ในหุงต้มเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแล้ว เรายังได้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างมาใส่พืชผักที่เราปลูกด้วย ที่สำคัญวิธีทำก็ง่ายมาก จนต้องพูดว่า “รู้แบบนี้ทำมาตั้งนานแล้ว” และนี่คือเรื่องราวของ "หมูยักษ์" The Biogas ที่ทุกคนสามารถทำได้
ที่มาที่ไปของการทำไบโอแก๊สครั้งนี้ มาจากการที่ทีม ProgressTH ได้มีโอกาสไปร่วมอบรมพลังงานทดแทนที่ป่าเด็ง "มหัศจรรย์ “ป่าเด็งโมเดล”นวัตนกรรมพลังงานทดแทน ในพื้นที่สายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึง" เมื่อต้นปี 2558 ซี่งไม่ที่นั่นสายส่งเข้าไม่ถึง แต่เรายังจำได้ว่าเราร้องคาราโอเกะกันกลางป่าถึงตีสาม โดยลืมไปเลยว่าเราอยู่ในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า
เพราะที่นี่ใช้พลังงานทดแทน ทั้งโซล่าเซลล์ และ แก๊สชีวภาพ หรือเราเรียกว่า “ไบโอแก๊สกัน ที่เติมเต็มชีวิตการพึ่งตนเองของคนที่นี่ให้มั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ไบโอแก๊ส ที่สามารถเป็นได้ทั้ง แก๊สหุงต้ม นำมาหุงหาอาหาร และนำมาใช้กับเครื่องปั่นไฟ เวลาหน้าฤดูฝนที่ไม่มีแดด ที่สำคัญ ไบโอแก๊ส ยังเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดีเพื่อใส่พืชผักต่างๆที่เราปลูก และสามารถกำจัดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้การอบรมครั้งนั้นจะสาธิตการใช้พลังงานทดแทนต่างๆอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่เข้าใจได้ถ่องแท้ เหมือนกับที่เราได้มีโอกาสลงมือทำเพื่อใช้เองจริงๆ ซึ่งทำให้เราเห็นภาพต่างๆ ในเรื่องเกษตรอินทรีย์เป็นองค์รวมมากขึ้น ว่าทุกอย่างล้วนพึ่งพากันและกัน
โดยเราได้ตัดสินทำไบโอแก๊สที่บ้านเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยที่บ้านประหยัดค่าแก๊สหุงต้ม พี่ๆทีมป่าเด็งโมเดล ได้มาช่วยดำเนินการติดตั้งทันที โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องช่วยกันติดตั้งในทุกขั้นตอนเพื่อเรียนรู้ไปด้วยกัน เบื้องต้นคือ
1. ขุดหลุมขนาดเท่าบอลลูนแบบครัวเรือน ยาว3 เมตร ลึก 60 ซม. กว้าง 1 เมตร
2. ใส่น้ำในบอลลูนให้อยู่ในระดับผิวดิน
3. ทำท่อใส่อาหารหมักแก๊ส เป็นท่อหน้ากว้าง 6 นิ้ว มัดให้แน่น
4. ทำท่อปล่อยกากอาหารที่ย่อยแก๊สแล้ว ท่อหน้ากว้าง 6 นิ้ว เช่นกัน การใส่ท่อลงในถุงต้องเฉียงๆ ประมาณ 45 องศา มัดปากให้แน่น
5. ใช้ท่อวงกลมเป็นที่ใส่อาหาร (ท่อที่ใช้ปลูกมะนาว) เทเปนเป็นแนวเฉียง เพื่อให้อาหารลงไปในบอลลูนง่ายขึ้น รวมถึงวางท่อรับกากแก๊สด้วย
6. เจาะบอลลูนเพื่อต่อท่อส่งแก๊ส โดยใข้ท่อและสายน้ำขนาด 6 หุน หรือ ¾ นิ้ว
7.เติมมูลสัตว์ประมาณ 25% ของบอลลูน ประมาณ 10 กระสอบหรือมากกว่านั้น จากนั้นรอให้เกิดแก๊ส ประมาณ2-3 สัปดาห์
8. หมั่นเติมอาหารให้ไบโอแก๊ส วันละประมาณ 2-4 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการเกิดแก๊สอาจจะต้องใช้ความอดทนกันสักนิด เพราะต้องรอจุลินทรีย์ย่อยสลายให้สมบูรณ์จนเกิดเป็นแก๊สมีเธน ซึ่งกว่าจะถึงตรงนั้นอาจะมีบางครั้งที่ที่ก๊าซมีกลิ่นเหมือนก๊าซไข่เน่า เพราะการย่อยยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ
แต่หลังจากผ่านช่วงนี้ การเกิดแก๊สก็จะตามมาและสามารถนำมาใช้หุงต้มได้ทันที ซึ่งความคุ้มค่าไม่ใช่แค่การมีแก๊สไว้ใช้เท่านั้น แต่คือการกำจัดของเสียในบ้าน เช่น มูลสัตว์ เศษอาหาร พืชผักต่างๆ ที่เหลือจากการขาย และไม่มีใครอยากนำไปกิน ซึ่งปกติแล้วต้องเหลือทิ้งก็สามารถนำมาให้ไบโอแก๊สกินได้ เพราะสามารถใส่ได้ไม่อั้น
จนกระทั่งต้องมีการตั้งชื่อว่า “หมูยักษ์” เพราะกินทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร น้ำซาวข้าว เปลือกผลไม้ต่างๆ ซึ่งแต่ก่อนจะถูกทิ้งอย่างไร้ค่า แต่ทุกวันนี้กลายเป็นอาหารของหมูยักษ์ โดยหลักการทำงานโดยหลังจากที่ได้กินแล้วก็จะคายของที่ย่อยแล้วออกมาทันที
ระบบการทำงานของกระเพาะหมูยักษ์ คือ ใส่ไปเท่าไหร่ ก็คายออกมาเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่หมูยักษ์คายออกมา เป็นทั้งปุ๋ยหมักและน้ำหมักชั้นดี สามารถนำไปผสมน้ำรดน้ำต้นไม้ได้ ทำให้พืชผักเติบโตรวดเร็วมาก กลายเป็นความสุขใจที่ในครัวเรือนได้ใช้ทรัพยากรทุกอย่างคุ้มค่า ไม่มีการเหลือทิ้งอีกต่อไปแล้ว
เพราะประโยชน์ของไบโอแก๊สหมูยักษ์ที่มีต่อที่บ้าน ทำให้เรารู้สึกว่า หมูยักษ์ เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน จนทุกวันนี้พ่อกับแม่ต้องถามตลอดว่า “เอาอะไรให้หมูยักษ์กินหรือยัง” กลายเป็นความรู้สึกใหม่ ที่ทุกคนในบ้านเต็มใจเอาของเสียออกมาทิ้ง (ให้หมูยักษ์กิน)ด้วยความเต็มใจ รู้สึกเหมือนเอาอาหารมาให้สัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เอาของเสียมาทิ้ง และหมูยักษ์ก็ให้แก๊สให้ปุ๋ยเป็นการตอบแทนทุกวัน
ที่คือ เรื่องราวของหมูยักษ์ ที่เกษตรกรทุกคนควรมีไว้ติดบ้าน เพราะทำให้วงจรแห่งเกษตรอินทรีย์สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะได้ทั้งพลังงานและปุ๋ยชีวภาพแบบนี้
ติดตาม ProgressTH.org Facebook ที่นี่ หรือ Twitter ที่นี่
รูปประกอบการทำ "หมูยักษ์ The Biogas"
![]() |
เริ่มจากต้องช่วยกันขุดดิน |
![]() |
ขุดดินเพื่อวางบอลลูน |
![]() |
ปุ๋ยอินทรีย์ที่หมูยักษ์คายออกมา |
![]() | ||
นำปุ๋ยมาใส่ต้นไม้พืช ผักต่างๆ กลายเป็นผักอินทรีย์ปลอดภัยไร้สารเคมี
|
สนใจติดต่อ คุณโกศล แสงทอง โทร 0852719262, 0852907766 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
facebook เครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง