ปิดช่องว่างทางการศึกษา ด้วยการเรียนออนไลน์


11 มี.ค. 2558- ProgressTH - กลายเป็นประเด็นร้อนทันที หลังจากที่มีรายงานจากยูเนสโก เปิดเผยว่าเด็กวัยประถมไทยเกือบ 600,000 คน ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ  เป็นเรื่องน่าเศร้าใจไม่น้อย ที่ในยุคโลกาภิวัฒน์ปี 2015 ที่ทุกอย่างในโลกนี้สามารถเชื่อมโยงติดต่อกันได้ แต่กลายเป็นว่ายังมีเด็กจำนวนมากที่ยังถูกทิ้งไม่ให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาแบบนี้

ทีม ProgressTH  เห็นว่า  ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงมากและเราไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะเดินหน้ากันอย่างไร อนาคตของเด็กเหล่านั้นจะอยู่ที่ไหน เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องช่วยกันทางออก เพราะเด็กในวันนี้คือ อนาคตของชาติ

รูปจาก



ยูเนสโกเผย เด็กไทยไม่ได้เรียนเกือบ 6 แสนคน

รายละเอียดในเรื่องนี้ ได้รับการเปิดเผยจาก  นายอิชิโร มิยาซาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรู้หนังสือและการเรียนรู้ตลอดชีวิต องค์การยูเนสโก  ซึ่งระบุว่า  การจัดการศึกษาให้เด็กเยาวชนอย่างเท่าเทียมกันยังเป็นปัญหาในระดับนานาชาติ โดยทั่วโลกมีเด็ก 67 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าสู่การศึกษาในระบบได้ 

 โดยประเทศไทยมีเด็กกลุ่มนี้จำนวนสูงถึง 586,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับประชากรวัยเรียน โดยถือเป็นอันดับ 5 ในทวีปเอเชีย และอันดับ 2 ของอาเซียน ส่วนอันดับ 1 คือ อินเดีย ตามด้วยปากีสถาน บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ และไทย 

ตัวเลขดังกล่าว จะส่งผลความเสียหายทางเศรษฐกิจของไทยคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 330,000 ล้านบาท หรือ 3% ของจีดีพีในทุกปี เพราะระบบการศึกษาไทยยังให้ความสำคัญต่อปัญหาไม่เพียงพอ เมื่อพิจารณาจากทรัพยากรที่ถูกจัดสรรให้เด็กเยาวชนเหล่านี้เพียง 2% ของงบประมาณการศึกษาไทยเท่านั้น 

" สาเหตุทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะรัฐบาลนักการเมืองและข้าราชการมักคิดถึงฐานเสียง กลุ่มผลประโยชน์ และงบประมาณของหน่วยงานของตนเป็นลำดับแรก และไม่สนใจที่จะสนับสนุนให้จัดสรรงบประมาณการศึกษาแก่เด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา รวมถึงการเปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อยครั้ง ทำให้การผลักดันนโยบายการศึกษาไม่ต่อเนื่อง" นายมิยาซาว่า ระบุ 

 ทั้งนี้ ประเทศไทย จากข้อมูลบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษา โดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) สสค. พบว่า การจัดสรรงบประมาณกว่า 75% เป็นเงินเดือนครูอีก 16% เป็นค่าใช้จ่ายประจำด้านต่างๆ ที่หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคใช้ มีงบประมาณเหลือเพียง 8% ที่จัดสรรตรงไปที่โรงเรียน เท่านั้น 

โดยทางออกในเรื่องนี้ ยูเนสโก เสนอว่า ต้องมีการเชื่อมโยงให้ทุกส่วนทำงานร่วมกัน ระหว่าง โรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครอง ภาคธุรกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยภาครัฐยังคงเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดการศึกษา และเป็นผู้สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดการศึกษาจะทำให้ระบบการศึกษาสำเร็จ 


เปิดโลกการเรียนออนไลน์ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา 

อย่างไรก็ตามในยุคออนไลน์แบบนี้ ทีม ProgressTH เห็นว่า ประเทศไทยควรมีการผลันดันระบบการศึกษาทางไกล / การศึกษาออนไลน์ /การใช้ Social Learning Tools เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ให้สมกับเป็นยุคออนไลน์ในปัจจุบันที่การสื่อสารไร้ขีดจำกัด อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ ขอให้มีใจรักเท่านั้น 


โดยในต่างประเทศหลายมหาวิทยาลัย ได้สร้างหลักสูตรเรียนฟรีออนไลน์ เพื่อให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ อาทิ เช่น Coursera ซึ่งเป็นเว็บนี้ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งจากทั่วโลก มีวิชาเรียนต่างๆมากมาย Khan Academy สำหร้บเด็กมัธยมจากหลายประเทศทั่วโลก และ MIT OpenCourseWare เป็นต้น และที่อื่นอีกมากมาย

กลับมาที่ประเทศไทย ทีม ProgressTH พบว่า เมื่อหลายปีที่แล้ว กลุ่มนิสิตจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย  กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกัน สร้างโรงเรียนออนไลน์สะสมความรู้  "ออมสกูล/Ormschool” ผ่านยูทูป https://www.youtube.com/user/ormschool   โดยมีเป้าหมายเพื่อจะทำให้ความรู้ที่ดีที่สุด มีราคาถูกที่สุด และไปทั่วถึงนักเรียนที่ขาดโอกาสได้มากที่สุด  

โดยออมสกูล ยังได้ผลิตเครื่องมือ/นวัตกรรมเพื่อการศึกษา ต่างมากมาย เช่น  ormFiles , ormLoad , ormBox3 , ormschool App เป็นต้น  เพื่อให้นักเรียนสามารถสะสมความรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ว่าที่นั่นๆจะไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ตาม

 ทั้งนี้ Conceptของ Ormschool  ระบุว่า ความเศร้าใจที่สุดของชีวิต คือ ความไม่รู้ อย่าปล่อยให้ใครสักคน ต้องทนเดียวดายอยู่ในโลกของความไม่รู้อีกต่อไป... จึงเป็นที่มาของการรวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ให้น้องๆนักเรียนเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางความรู้ และแก้ปัญหาโดยเด็กๆไม่ต้องฝากชีวิตไว้กับการเรียนพิเศษอีกต่อไป และทุกคนสามารถเรียนล่วงหน้า เข้าใจบทเรียนล่วงหน้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก

 ออมสกูล ยังระบุด้วยว่า ความรู้ที่ดีที่สุดควรจะมีให้กับ “ทุกคน” โดยมีราคาถูกที่สุดจนกระทั่งฟรี ส่วนความเก่งนั้นขึ้นอยู่กับการสะสมความรู้ของแต่ละคน และ ขอให้ผู้ที่มีความมุ่งมั่น คือ ผู้ชนะ ทั้งนี้น้องๆ สามารถเรียนจากวิดิโอของออมสกูลได้ 

ห้องเรียนออนไลน์ใน Youtube/Ormschool 


โดยล่าสุด ได้มีการทำวิดิโอแบ่งปันความรู้มากกว่า 10,000 คลิปแล้ว และมีเป้าหมายที่จะสร้างวีดีโอความรู้ให้ถึง 1,000,000 คลิปในอนาคต เพื่อทำลายทุกกำแพงที่ขวางกั้นความรู้ เพื่อช่วยนักเรียนทุกคน ให้หลุดพ้นจากโลกของความไม่รู้ และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของตนเองต่อไป 

นี่คือตัวอย่างที่น่ายกย่อง ที่สังคมไทยต้องช่วยกันกระจายบอกต่อ เพื่อลดปัญหาช่องว่างทางการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมีทางเลือกทางการศึกษามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะนับจากนี้ไปการแสวงหาความรู้ต้องไม่มีขีดจำกัด เด็กทุกคนต้องอ่านออกเขียนได้ และมีความสามารถในการสร้างศักยภาพให้ตัวเองและให้ชาติในอนาคต


ติดตาม ProgressTH.org ใน Facebook ที่นี่ และ Twitter ที่นี่


 รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.ormschool.com/