ภาคีเครือข่ายต้านยาสูบเอเชีย-แปซิฟิก 40 ชาติ เข้าร่วมงานประชุม 13th APACT 2021 Bangkok
27 ส.ค. 2564- ProgressTH.org : ศจย. ร่วมกับ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาพันธ์ เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และ สสส. เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมบุหรี่หรือสุขภาพ เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 13 หวังสร้างความตระหนักถึงพิษภัยยาสูบร้ายแรงกว่าโควิด 19 ระบุคนตายจากบุหรี่ต่อปีมากกว่าโควิด 3-4 เท่า พร้อมออกปฏิญญาทั้งระดับปฏิบัติงานและกลุ่มเยาวชนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของการควบคุมยาสูบระดับนานาชาติ ด้านนักวิชาการไทยและต่างประเทศตบเท้าเข้าร่วมกว่า 2,700 คน พร้อมงานวิจัยเกี่ยวกับยาสูบอัพเดตล่าสุดกว่า 300 ผลงาน
ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)
คณะ แพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะ ประธานจัดงานประชุม 13th APACT 2021 Bangkok กล่าวถึงที่มา
และความน่าสนใจของงานประชุมด้านยาสูบระดับนานาชาติในครั้งนี้ว่า
งานประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 13 หรือ
13th Asia Pacific Conference on Tobacco or Health (13th
APACT 2021 Bangkok) ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติ
เป็นเจ้าภาพจัดงานเป็นครั้งที่ 3 ตลอดระยะเวลาการจัดประชุมที่
APACT ที่ยาวนานกว่า 26 ปี นั้น ในปีนี้เป็นความร่วมมือ
ระหว่าง ศจย. แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทย ปลอดบุหรี่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) และอีก 12 องค์กรพันธมิตร
ตกลงจัดงานประชุม ในลักษณะลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมแบบ Live Stream ระหว่างวันที่ 3-4 กันยายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 หวังสร้างความตระหนักถึงพิษภัยของยาสูบที่ร้ายแรงกว่าโรคระบาดอุบัติใหม่อย่างโควิด
19 เพราะจำนวนผู้ที่เสียชีวิตทั่วโลก จากยาสูบต่อปีมากกว่าโควิด
19 ถึง 3-4 เท่า โดยประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถรับทราบข่าวสารงานประชุมได้ที่เว็บไซต์
www.apact2021.com
ศ.ดร.นพ.ประกิตพันธุ์ ทมทิตชงค์ เลขาธิการแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะ เลขาธิการการประชุม APACT 2021 และเลขาธิการแพทยสมาคมฯ กล่าวว่า ภายในงานประชุม
13th APACT 2021 Bangkok ได้ให้ความสำคัญกับเยาวชนที่กำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของอุตสาหกรรมยาสูบ
โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า โดยจะมี การประชุมกลุ่ม Youth ที่แยกเวทีออกมาเฉพาะในวันที่
2 กันยายน 2564 ประกอบด้วย เยาวชนไทย 100 คน เยาวชนจาก เอเชีย-แปซิฟิก 73 คน ซึ่งแต่ละคนมีแผนงานรณรงค์ต้านยาสูบของตนเอง ให้มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และหาข้อสรุป
เพื่อออกปฏิญญาต้านยาสูบสำหรับเยาวชนเอเชีย-แปซิฟิกโดยเฉพาะ
ซึ่งจะมีการติดตามปฏิญญาหลังประชุมเสร็จด้วยว่า มีความคืบหน้าหรือผลสำเร็จอย่างไรในอีก
6 เดือนข้างหน้า โดยปฏิญญา Youth จะกลายเป็นส่วนหนึ่ของปฏิญญา
APACT 2021 เมื่อผนวกรวมกับภาคส่วนอื่นๆ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของการควบคุมยาสูบระดับนานาชาติได้อย่างแท้จริง
“การออกปฏิญญาการควบคุมการบริโภคยาสูบและผลิตภัณฑ์ยาสูบ ข้อควรปฏิบัติ และความร่วมมือระดับนานาชาติ ในงาน APACT
2021 จะมีด้วยกันทั้งสิ้น 4 ฉบับ
คือ ปฎิญญาเยาวชน ปฏิญญา เครือข่ายทำงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. และ ปฏิญญาของกลุ่มผู้ทำงาน ด้านยาสูบระดับนานาติกว่า 900 องค์กรที่ทำงานร่วมกัน โดยทั้ง
3 ปฏฺิญญาจะกลายเป็นปฏิญญาใหญ่ของ APACT 2021” เลขาธิการการประชุม APACT 2021 ระบุ
ด้าน นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส อดีตนายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในกล่าวว่า ที่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ หน่วยงานแพทย์เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในเจ้าภาพจัดงานประชุม 13th APACT 2021 Bangkok เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้ดำเนินงานด้านยาสูบมาตลอด
โดยเป็นผู้แต่งตั้งเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ จนได้รับรางวัลจากสมาพันธ์เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพแห่งโลก
(WHPA) เมื่อปี 2558 และยังเป็นผู้ผลักดันกฎหมายต้านบุหรี่ฉบับแรก พ.ศ.
2517 จนถึงกฎหมายต้านบุหรี่ ฉบับปัจจุบัน นับรวมเป็นระยะเวลา 40-50 ปี
ที่สำคัญคือในปีนี้เป็นการครบรอบ 100 ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงมีแนวคิด
จัดงานประชุมวิชาการร่วมกับ APACT
ขณะที่ ผศ.ดร.นพ.วิชช์
เกษมทรัพย์ รองเลขาธิการเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพในเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน
และอาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความร่วมมือระดับอาเซียนในการรณรงค์ต้านยาสูบที่จะเกิดขึ้นในการประชุม
13th APACT 2021 Bangkok คือการจับมือของมหาวิทยาลัยชั้นนำในกลุ่มประเทศอาเซียนกว่า
30 สถาบัน ซึ่งเป็นเครือข่ายอาเซียน ยูนิเวอร์ซิตี
เน็ตเวิร์ก เฮลธ์โปรโมชัน เน็ตเวิร์ก จะทำข้อตกไม่รับทุนวิจัยเพื่อสร้างเสริมสุขภาพจากบริษัทผู้ผลิตยาสูบ
หรือบริษัทที่แฝงมากับบริษัทยาสูบในทุกกรณี และจะดำเนินงานภายในมหาวิทยาลัยตามกรอบการพัฒนาสร้างเสริมสุขภาพ
ที่จะไม่ให้มีบุหรี่ในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัยใน ทุกระดับ ทั้งผู้บริหาร คณาจารย์
พนักงานมหาวิทยาลัย และนิสิตนักศึกษา หรือ Zero Tolerance
ซึ่งที่ผ่านมาสามารถขยายผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่นโยบายระดับชาติ เช่น พื้นที่ปลอดบุหรี่ของ
มหาวิทยาลัยมหดิล ไปสู่การให้โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ด้วยเช่นกัน
การประชุม
APACT จัดครั้งแรกในปี 2532
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2538 ซึ่งเป็นการจัดครั้งที่ 4 ที่ จ.เชียงใหม่
และเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 2 ในการจัดครั้งที่ 13 หรือปี 2556 โดยจัดที่ กรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก APACT นับเป็นงานประชุมวิชาการด้านบุหรี่และสุขภาพระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่
####