โลกยังวิกฤติยอดตายโควิด19 ทะลุ 3 ล้านคนทั่วโลก

 18 เม.ย. 2564- ProgressTH.org- By Katibza 

และแล้ววันนี้ก็มาถึง  เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ก้าวผ่าน 3 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันเสาร์ (17 เม.ย.) ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดรวดเร็วขึ้น แม้โลกกำลังเร่งโครงการฉีดวัคซีน  แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความสูญเสียที่เกิดขึ้นทุกวันได้  

สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด19 ทั่วโลก ซึ่่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตทะลุเกิน 3 ล้านคนแล้ว
https://coronavirus.jhu.edu/map.html  18/4/2021 

 

ทั้งนี้นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด19  ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนธ.ค. 2562 ที่เมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน จนถึงทุกวันนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า 140ล้านคน  ผู้คนหลายพันล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์และทำลายเศรษฐกิจโลกย่อยยับ

โดยเฉพาะประเทศไทยที่รายได้หลักของประเทศมาจากการท่องเที่ยวและการบริการ  โดยประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ 40,585 คน และมีผู้เสียชีวิต 99 คน  (18/4/2021)  

AFP ชี้ว่า ค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่มากกว่า 12,000 คนต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 3 ล้านคนในวันเสาร์ (17 เม.ย.) จำนวนนี้มากกว่าประชากรทั้งหมดของจาเมกา หรือ อาร์เมเนีย และมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามอิหร่าน-อิรัก ระหว่างปี 1980-1988 ถึง 3 เท่า

โรคระบาดใหญ่ไม่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงแม้แต่น้อย ด้วยทั่วโลกรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 829,596 คน ในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่ระบาด ส่วนค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 731,000 คน เฉียดใกล้ทุบสถิติเดิมเช่นกัน

กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์ช่วงสุดสัปดาห์ในวันเสาร์ (17 เม.ย.) ขณะที่ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันถึง 234,000 คน และเสียชีวิต 1,341 คน ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ราว 14.7 ล้านคน เสียชีวิตสะสมประมาณ 177,000 ราย

ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสเองก็มีผู้เสียชีวิตกว่า 100,000 คน ด้านประเทศเยอรมันก็อยู่ในภาวะสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน เพราะมีติดเชื้อสูงถึง 29,000 ต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา  ทำให้ทางรัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการความเข้มงวดด้านกฎหมายในเรื่องการ Lockdown มากขึ้น  โดยกำลังมีการจัดทำกฎหมายเพื่อให้อำนาจรัฐบาลกลางสามารถประกาศ Lockdown ได้  เพราะเป็นมาตรการที่สำคัญในการที่หยุดไวรัสได้ 

อย่างไรก็ตามทางรัฐสภาของเยอรมัน ยังมีความลังเลในการรับรองกฎหมายดังกล่าว เพราะเกรงเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน  จนทำให้นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมัน กล่าวย้ำว่า เราไม่สามารถปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปกว่านี้ได้ เพราะไวรัสนั้นไร้ซึ่งความเมตตา  ไม่เคยลังเล ไม่เคยเจรจาต่อรอง  ไวรัสมีแต่การทำลายล้าง 

If we learned the lesson from  the last 13 months of the pandemic it is... 

The virus does not forgive any half-heartedness it only makes things worse. 

The virus does not forgive hesitation it only makes everything last longer.

The virus does not accept any negotiation it only one language the language of determination.

 ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าว สามารถนำมาปรับใช้กับการแก้ปัญหาโควิด19 ให้กับประเทศทั้่วโลกได้   ที่เราต้องขยับให้เร็วและต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อที่จะสามารถสกัดและยุติไวรัสได้ 

###

ติดตาม  ProgressTH.org   Facebook ที่นี่ หรือ Twitter ที่นี่